เจาะลึก Martingale System Blackjack คืออะไร ระบบทำงานแบบไหน และข้อดีข้อเสียในการใช้กลยุทธ์มาร์ติงเกลมาใช้เดินเงินกับแบล็คแจ็คที่ Lucky Days หาคำตอบพร้อมกันที่นี่
Lucky Days คาสิโนออนไลน์ Lucky Days คาสิโนสด Lucky Days แบล็คแจ็คออนไลน์
ระบบเดิมพัน Martingale System Blackjack คืออะไร?
Martingale คือ กลยุทธ์บริหารจำนวนเงินเดิมพันที่นิยมใช้ในการเล่นหุ้นและการเดิมพันแบล็คแจ็ค, รูเล็ต, บาคาร่า, เสือมังกรที่ Lucky Days คาสิโนเป็นระบบเดินเงินที่นิยมอย่างแพร่หลายสำหรับผู้ชอบความท้าทาย เพราะคุณต้องเพิ่มจำนวนเงินเมื่อเสียเปรียบ หากเล่นชนะจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ ส่วนผลที่ตามมาหากคุณแพ้ติดกันและชนะในรอบที่เพิ่มเงินสูงสุดจะได้กำไรพร้อมคืนทุนในเวลาเดียวกัน
แน่นอนว่าคงไม่มีใครแพ้ติดกันเกิน 5 ตา ทางที่ดีไม่ควรเกิน 3 ครั้ง เพราะผู้เล่นจะตามล่าเงินที่เสียไปยากขึ้น แต่ทั้งนี้การเล่นแบล็คแจ็คก็ต้องมีทุนสำรองไว้กรณีที่ต้องเลือก “Double Down” ถึงแม้จะเล่นไม่บ่อยแต่ควรเผื่อไว้ ฉะนั้นระบบ Martingale System Blackjack จึงเหมาะที่จะเล่นแค่ 1 ประเภทเดิมพันหลัก ไม่ควรเพิ่มรายจ่ายเข้ามาเพื่อรักษาทุนให้หมุนเวียนนานขึ้น
กลยุทธ์ Martingale ทำงานอย่างไร?
สำหรับระบบการทำงานของ Martingale ผู้เล่นจะต้องเพิ่มเงินทีละ 2 เท่าทุกครั้งที่เล่นแพ้ หากชนะให้กลับไปเริ่มทุนขั้นต่ำ กรณีที่ชนะต่อเนื่องกันให้เดิมพันจำนวนคงที่จนกว่าจะแพ้ถึงเพิ่มจำนวน วัตถุประสงค์ของการใช้เทคนิคคาสิโน Martingale System Blackjack คือ การเพิ่มมูลค่าเมื่อคุณขาดทุนแล้วเรียกทั้งกำไรและทุนกลับมาในทีเดียวมากกว่า 2 เท่าขึ้นไป ถ้าชนะต่อเนื่องกำไรจะขึ้นทีละ 1 เท่าสม่ำเสมอ แต่ทว่าไพ่แบล็คแจ็คไม่มีทางชนะต่อเนื่องกันเสมอไป สามารถดูตารางเปรียบเทียบการแพ้-ชนะที่ส่งผลต่อกำไรและการสูญเสียของนักเดิมพัน
การแพ้-ชนะ และกำไร-การขาดทุนของระบบมาร์ติงเกลที่เป็นไปได้:
เงินเดิมพัน | ผลลัพธ์ | กำไร/ขาดทุน |
50 บาท | ชนะ | +50 บาท |
50 บาท | ชนะ | +50 บาท |
50 บาท | แพ้ | -50 บาท |
100 บาท | แพ้ | -100 บาท |
200 บาท | แพ้ | -200 บาท |
400 บาท | ชนะ | +400 บาท |
50 บาท | แพ้ | -50 บาท |
100 บาท | แพ้ | -100 บาท |
200 บาท | แพ้ | -200 บาท |
400 บาท | ชนะ | +400 บาท |
นี่เป็นเพียงการคาดการได้กำไร/ขาดทุนของการวิธีเล่น แบล็คแจ็คที่ Lucky Days เพราะรายรับจริง ๆ อาจจะมากกว่านี้ถ้าคุณชนะด้วยแต้ม Blackjack 21 รับอัตราจ่าย 3:2 เท่า ในตารางจะเปรียบเทียบการจ่ายแบบ 1:1 เพราะมีโอกาสเกิดง่ายกว่าและเห็นภาพชัดเจนว่าถ้าคุณแพ้ติดกันเงินทบจะสูงขึ้น เมื่อชนะจะคืนทุนที่เสียและได้กำไร 1 เท่าของทุนเริ่มต้น คือ 50 บาทนั้นเอง
ข้อดี-ข้อเสียของกลยุทธ์ Martingale ที่ใช้ร่วมกับแบล็คแจ็ค
การเดิมพันแบบมาร์ติงเกลเหมาะกับเกมพนันที่มีการแพ้-ชนะ 1 ใน 2 และจำกัดบางประเภทเดิมพันเท่านั้น ทำให้จึงเกิดข้อเปรียบเทียบว่าถ้าใช้กลยุทธ์ Martingale System Blackjack แล้วจะมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้เล่นพิจารณาว่ามาร์ติงเกลเหมาะที่จะสร้างกำไรจากการเล่นแบล็คแจ็คหรือไม่ รวมถึงการเดิมพันระยะยาว ระยะสั้นที่นักเดิมพันต้องตัดสินใจเอง ทั้งนี้ควรนำไปทดลองใช้ก่อนถึงจะรู้
✅ข้อดี:
- ระบบการเดิมพันที่เรียกเงินคืนที่ขาดทุนไปทุกบาทในการชนะแค่ 1 ครั้ง พร้อมกับกำไร
- ถ้าชนะต่อเนื่องก็เป็นการสะสมกำไรเล็กน้อยทีละ 1-3 เท่าในชนะแบล็คแจ็ค
- เป็นกลยุทธ์ที่ท้าทายในการวัดความอดทนของผู้เล่นว่าคุณจะรอได้ไหมกับโอกาสชนะหลังจากแพ้ต่อเนื่อง
- จากการลองใช้ระบบมาร์ติงเกลกับ Blackjack ใช้ระยะสั้น ๆ เหมาะกว่าจะเล่นระยะยาว
- ผู้เล่นสามารถควบคุมเงินทุน และรอบวางเดิมพันได้ ไม่จำเป็นต้องเล่นต่อเนื่องทุกรอบ
❌ข้อเสีย:
- หากจะใช้ Martingale ต้องมีทุนอย่างน้อย 1,000 บาทขึ้นไป ไม่เหมาะกับคนทุนน้อย
- แบล็คแจ็คเป็นเกมที่เอาแน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคเล่นแบล็คแจ็คเพื่อเอาชนะ แถมยังขึ้นอยู่กับการสุ่มไพ่และรวมแต้มไม่เกิน 21 หรือเท่ากับ ทำให้คาดเดาไม่ได้เลยว่าคุณจะชนะรอบไหน และต้องแพ้ติดกันอีกกี่รอบ
- หากแพ้ติดกันนานเกินไปอาจตามทุนที่เสียไปยากขึ้น เพราะเงินในกระเป๋าก็ลดน้อยลงทุกครั้งที่แพ้ ต่างจาก 1326 Blackjack Betting System ที่จะเพิ่มเงินเมื่อชนะจบเซ็ทเล่นชนะแค่ 4 ครั้งก็ดูตอบโจทย์กว่า
การเดินเงิน Blackjack และประเภทเดิมพันที่เหมาะกับระบบ Martingale
หัวข้อสุดท้ายที่ Luck88th จะพูดถึงการใช้งานระบบ Martingale กับเกมไพ่แบล็คแจ็คที่จำกัดบางตัวเลือกเท่านั้น คือ การเดิมพันหลัก หรือ Bet Behind ควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ห้ามเดิมพันพร้อมกันเด้ดขาด เพราะต้องลงทุนเยอะและสับสนในการใช้กลยุทธ์ ส่วนขั้นตอนการเดินเงิน Martingale System Blackjack สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ว่าการเดินเงินแบบมาร์ติงเกลกับ Blackjack เป็นอย่างไร
#1. ประเภทเดิมพัน Blackjack ที่เหมาะจะเล่นในระบบมาร์ติงเกล
- เดิมพันแบล็คแจ็ค – คือ ช่องเดิมพันที่อยู่ตรงกลาง ผู้เล่นต้องชนะเจ้ามือด้วยแต้มรวมใกล้เคียง หรือเท่ากับ 21 หากแต้มเกินจะแพ้ทันที เราเรียกว่า “Bust it” เกมจบเริ่มเกมใหม่
- Bet Behind – คือ การวางเดิมพันชุดไพ่ของผู้เล่นภายในโต๊ะ หากผู้เล่นที่เราแทงชนะก็จะชนะไปด้วย หากชนะแต้มใกล้เคียงรับ 1:1 ชนะแบล็คแจ็ครับ 3:2 แต่ไม่มีสิทธิ์เลือกการกระทำใด ๆ แค่เดิมพันว่าจะชนะหรือไม่เท่านั้น
#2. จำลองการเดินเงินแบบ Martingale ในเกมแบล็คแจ็ค
กำหนดเงินทุน 2,000 บาทที่จะจำลองเทคนิคคาสิโนการขาดทุนและได้กำไรจะมีการขึ้นลงอย่างไร แล้วยอดเงินคงเหลือจะพอหรือไม่หากเราเริ่มขั้นต่ำ 100 บาท หรืออาจจะต่ำกว่านี้ก็ได้ ก้ถือว่าเป็นการท้าทายว่าเบทเยอะชนะได้กำไรเยอะ เบทน้อยได้กำไรน้อย แต่ถ้าแพ้ต่อเนื่องทุนหมดช้า
- วางเดิมพันแบล็คแจ็ครอบที่ 1 – วางเดิมพัน 100 บาท ชนะ กำไร 100 บาท ยอดคงเหลือ 2,100 บาท
- วางเดิมพันแบล็คแจ็ครอบที่ 2 – วางเดิมพัน 100 บาท ชนะ กำไร 100 บาท ยอดคงเหลือ 2,200 บาท
- วางเดิมพันแบล็คแจ็ครอบที่ 3 – วางเดิมพัน 100 บาท แพ้ เสีย 100 บาท ยอดคงเหลือ 2,100 บาท
- วางเดิมพันแบล็คแจ็ครอบที่ 4 – วางเดิมพัน 200 บาท แพ้ เสีย 200 บาท ยอดคงเหลือ 1,900 บาท
- วางเดิมพันแบล็คแจ็ครอบที่ 5 – วางเดิมพัน 400 บาท แพ้ เสีย 400 บาท ยอดคงเหลือ 1,500 บาท
- วางเดิมพันแบล็คแจ็ครอบที่ 6 – วางเดิมพัน 800 บาท ชนะ กำไร 800 บาท ยอดคงเหลือ 2,300 บาท
สรุปได้ว่าเมื่อคุณแพ้ติดกันแล้วชนะ 1 ครั้งจะคืนทุนทั้งหมดที่เสีย แล้วบวกกำไรเพิ่มอีก 1 เท่าขึ้นไป เช่นตัวอย่างที่แพ้ติดกัน 3 ครั้ง ขาดทุน 700 บาท เหลือ 1,500 บาท แล้ววางเดิมพันเพิ่มอีก 2 เท่า เป็น 800 บาท ยอดคงเหลือ 700 บาท แล้วกลับมาชนะแค่ 1 ครั้ง กำไรรวมทุน 1,600 บาท คืนเท่าทุน 1,300 บาท และกำไรอีก 300 ทำให้ยอดเพิ่มเป็น 2,300 บาทนั้นเอง
บทสรุป
ปัจจุบันกลยุทธ์เดินเงินแพร่หลายในหมู่นักเดิมพันที่อยากสร้างกำไรแบบก้าวกระโดด ลดความเสี่ยงที่จะหมดตัว และส่วนมากระบบจะมีกลไกป้องกันการขาดทุนอยู่แล้ว ดังเช่น Martingale System Blackjack ที่ใช้ในแบล็คแจ็คเกมที่การันตีไม่ได้ว่าคุณจะเอาชนะเจ้ามือได้หรือไม่ ต่างจากการเล่นบาคาร่าที่เดาผลง่าย ๆ จากสถิติว่าจะออก Player หรือ Banker แต่ถ้าใช้ระยะสั้นเล่นเสียแล้วคืนทุนพร้อมกำไรก็อาจจะเปลี่ยนกลยุท์อื่นที่จะต่อยอดกำไรแบบความเสี่ยงต่ำกว่านี้